การดูแลเสื้อโปโล “ซัก อบ รีด” ไม่ให้เป็นขุย ยืดอายุผ้าโปโล ด้วย 9 วิธี

การดูแลเสื้อโปโล "ซัก อบ รีด" ไม่ให้เป็นขุย ยืดอายุผ้าโปโล ด้วย 9 วิธี

คุณเคยประสบปัญหาจากการ ซัก อบ รีด เสื้อผ้าบ้างไหมครับ แล้วเคยสงสัยบ้างไหมว่าคนอื่นๆ เขาดูแลเสื้อผ้ากันยังไงถึงไม่ทำให้เนื้อผ้าเป็นขุยและยังคงรักษาความสวยงามเช่นเดิมไก้ ถึงแม้เนื้อผ้าที่เราใช้อยู่นั้นเป็นเนื้อผ้าชนิดเดียวกัน แต่หลังจากสวมใส่ได้ไม่นาน แต่ทำไมดูเหมือนมีเนื้อผ้าที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ตกลงเป็นเพราะสาเหตุใดกันแน่?

ในวันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกันว่า การดูแลเสื้อโปโล “ซัก อบ รีด” ด้วยวิธีไหน? ถึงไม่ทำให้เนื้อผ้าเป็นขุยได้และดูแลเสื้อโปโลคงสภาพเช่นเดิมได้ ถ้าคุณกำลังประสบปัญหาการดูแลรักษาเสื้อโปโลอยู่ คุณสามารถนำวิธีที่ผมจะพูดถึงในวันนี้ได้เลย รับรองได้ว่าช่วยดูแลเสื้อโปโลของคุณดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ เรามาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้าง มีดังนี้


เลือกอ่าน

“ การดูแลเสื้อโปโล “ซัก อบ รีด” ไม่ให้เป็นขุย ยืดอายุผ้าโปโล ด้วย 9 วิธี ”


วิธีที่ 1

“แยกเสื้อก่อนนำไปซัก ”

วิธีนี้มีหลายคนรู้กันอยู่แล้ว แต่ก็ไม่แน่อาจมีบางคนลืมแยกสีเสื้อหรือมองข้ามเรื่องเหล่านี้ไป จนทำให้เสื้อที่เราซักรวมกันมีสีของเสื้อตัวอื่นติดอยู่ ทำให้คุณภาพของเสื้อลดน้อยลงจนไม่น่าสวมใส่อีกต่อไป ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มซักเสื้อผ้าให้แยกผ้าสีและผ้าขาวออกจากกัน เพื่อป้องกันการตกสีของผ้า จนทำให้ผ้าสีขาวมีสีติดค้างอยู่


วิธีที่ 2

“ตรวจสอบคราบสกปรกและสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อ”

การดูแลเสื้อโปโล ที่ถูกต้อง

หลังจากที่เราถอดเสื้อออกแล้ว ให้เราตรวจคราบสกปรกโดยทันที ว่ามีคราบอยู่ส่วนไหนและเป็นคราบอะไร ถ้าตรวจพบว่ามีคราบอื่นๆ เช่น หมากฝรั่ง หมึก โคลน น้ำมัน เป็นต้น คราบเหล่านี้มีวิธีขจัดคราบต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น คราบหมากฝรั่ง เป็นการขจัดคราบที่แตกต่างจากคราบอื่นๆ โดยใช้ก้อนน้ำแข็งไปถูส่วนที่ติดหมากฝรั่ง ถูจนทำให้หมากฝรั่งเริ่มแข็งตัว แล้วสามารถขจัดคราบหมากฝรั่งได้ง่ายมากขึ้นครับ ส่วนคราบอื่นๆ ก็มีวิธีขจัดด้วยเหมือนกัน

แต่สิ่งที่อยากจะบอกคือ ก่อนที่จะซักเสื้อเราควรตรวจสอบคราบสกปรกก่อน เพราะอาจทำให้เสื้อผ้าตัวอื่นๆ จะติดคราบเหล่านั้นได้ และอย่าลืมตรวจสอบสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อหรือกางเกงด้วยครับ บางทีเป็นสิ่งของที่มีสีอยู่ด้วย เช่น กระดาษสี ปากกา และอื่นๆ ของเหล่านี้อาจทำให้เสื้อผ้าของเราติดสีจากสิ่งของเหล่านี้ไปด้วยน่ะครับ


วิธีที่ 3

“กลับด้านเสื้อโปโลก่อนนำไปซัก”

การดูแลเสื้อโปโล มีวิธีไหนบ้าง

เป็นปกติการซักเสื้อด้วยเครื่องซักผ้าจะต้องกลับด้านเสื้อของเราก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายส่วนต่างๆ ของเสื้อ เช่น โลโก้ สกรีนเสื้อ และอื่นๆ ทางที่ดีนั้นให้เรานำเสื้อโปโลใส่ในถุงซักผ้าก่อน เพื่อลดความเสียหายให้มากที่สุด ช่วยลดการเสียดสีของเนื้อผ้ากับตัวถังได้ หากทำตามนี้ได้รับรองเลยว่า เนื้อผ้าจะอยู่สภาพเดิมได้นานมากขึ้น ผ้าไม่เป็นขุย สีไม่จาง และช่วยยืดอายุของเนื้อผ้าได้นาน


วิธีที่ 4

“ติดกระดุมเสื้อก่อนไปซัก”

ยังมีอีกหลายคนที่มองข้ามการติดกระดุมก่อนนำไปซักเสื้อ ในกรณีซักเสื้อโปโลด้วยเครื่องซักผ้า ก่อนจะนำเสื้อโปโลไปซักให้เราตรวจสอบดูก่อนว่ากระดุมเสื้อติดหมดรึยัง ถ้าหากยังไม่ติดกระดุม ก็ควรฝึกติดกระดุมก่อนซักเสื้อโปโลน่ะครับ เพราะการติดกระดุมเสื้อเวลาซักจะช่วยเสื้อโปโลของเราไม่ยับมากเกินไป ทำให้เป็นเรื่องง่ายเวลาจะรีดเสื้อโปโล


วิธีที่ 5

“ซักเสื้อด้วยเครื่องซักผ้าในปริมาณที่เหมาะสม”

การดูแลเสื้อโปโล ทำได้ง่ายๆ ในเวลาสั้นๆ

โดยตามปกติคนเรามักชอบทำอะไรให้เสร็จรวดเดียว แต่ไม่ควรใช้กับการซักเสื้อน่ะครับ เพราะการซักเสื้อด้วยเครื่องซักผ้าในปริมาณมาก เครื่องสักผ้าจะทำงานหนักมากขึ้นอาจทำให้เครื่องซักผ้าเสียหายเร็วมากขึ้นและยังทำให้เนื้อผ้าเสียหายได้ด้วยเหมือนกันครับ ดังนั้นการซักเสื้อให้อยู่ปริมาณที่เหมาะสม จะเป็นส่วนช่วยถนอมเสื้อโปโลได้ครับ


วิธีที่ 6

“ห้ามใช้แปรงเมื่อซักเสื้อโปโลด้วยมือเปล่า”

คุณคงจะทราบเหตุผลดีว่าทำไมเราไม่ควรใช้แปรงในเวลาที่เราซักเสื้อโปโลด้วยมือเปล่า เพราะจะทำให้เนื้อผ้าเป็นขุยได้ง่าย การซักเสื้อโปโลด้วยมือเปล่าเราควรขยี้เสื้อโปโลเบาๆ ถ้าหากมีรอยคราบฝังอยู่ ให้เรานำเสื้อไปแช่ในน้ำพร้อมกับผลิตภัณฑ์ซักผ้า แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที หลังจากนั้นก็นำไปซักต่อได้เลย การซักแบบนี้จะช่วยสลายคราบฝังลึกออกได้ง่ายโดยที่เราไม่ต้องใช้แปรงเลย หากซักเสื้อโปโลแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ จะช่วยรักษาเนื้อผ้าที่ดี และเสื้อโปโลของเราจะดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ


วิธีที่ 7

“ควรใส่ใจการเลือกผงซักฟอก”

การดูแลเสื้อโปโล การเลือกผงซักฟอกสำคัญไหม

การซักเสื้อผ้าให้สะอาดนั้น ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ผงซักฟอกและน้ำยาซักผ้า หากเลือกใช้อย่างเหมาะสมจะส่งผลดีต่อเสื้อโปโลของเราได้ครับ แต่หากเลือกใช้ผงซักฟอกและน้ำยาซักผ้าที่ไม่มีคุณภาพจะอาจไม่ส่งผลใดๆ กับเสื้อโปโลของเราหรือให้พูดง่ายๆ คือไม่ต่างกับไม่ได้ซักเลย อาจแย่ไปกว่านั้นหากส่งผลต่อเนื้อผ้า เช่น สีตก เกิดรอยคราบเพิ่มเติม และอื่นๆ ดังนั้นก็ควรระวังการเลือกใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าด้วยครับ และยังมีอีกอย่างคือ น้ำที่ใช้ซักเสื้อโปโลหรือเสื้อผ้าอื่นๆ ต้องเป็นน้ำที่สะอาดน่ะครับ


วิธีที่ 8

“ขั้นตอนการตากเสื้อโปโล”

ก่อนที่เราจะตากเสื้อโปโล เราควรกลับเสื้อด้านในออกด้านนอก เพื่อป้องการสีเสื้อซีดจางได้เมื่อโดนแสงแดด ส่วนการเลือกที่ตากเสื้อผ้าเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งที่เราต้องรู้ไว้ ก่อนที่จะตากเสื้อผ้า เราควรตากเสื้อผ้าในที่โปร่งๆ มีแสงแดดอ่อนๆ ที่ส่องถึง เพื่อไม่ให้เสื้อผ้าของเรารับแสงแดดมากจนเกินไป จะเป็นผลเสียต่อเสื้อผ้าของเราได้ครับ การตากเสื้อโปโลควรใช้ไม้แขวนเสื้อ เพื่อรักษารูปทรงของเสื้อได้ หากตากเสื้อโปโลหรือเสื้อผ้าอื่นๆ ตามขั้นตอนนี้ได้ รับรองได้ว่าจะช่วยถนอนเสื้อผ้าได้ดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ


วิธีที่ 9

“การรีดเสื้อโปโลที่ถูกต้อง”

การดูแลเสื้อโปโล ควรตากผ้ายังไงที่ถูกต้อง

การรีดเสื้อโปโลเราก็ต้องใส่ใจด้วยเหมือนกัน หากรีดเสื้อผ้าที่ผิดวิธีก็อาจทำให้เสื้อโปโลของเราเสียหายได้เหมือนกัน สำหรับวิธีการรีดเสื้อโปโลนั้นไม่มีอะไรที่ยุ่งยากเลย เพียงแค่ปรับระดับความร้อนให้พอดี  การปรับระดับความร้อนของเตารีด ควรปรับให้อยู่ในระดับต่ำ-ปานกลาง จะช่วยถนอมเนื้อผ้าของเสื้อโปโลของเรา และไม่ทำให้สีเสื้อซีดจางลงได้ครับ


สรุป

ทีนี้คุณก็น่าจะรู้ การดูแลเสื้อโปโล กันแล้วใช่ไหมครับ ไม่ว่าจะเป็นการ “ซัก อบ รีด” ก็ไม่ต้องกังวลในการดูแลรักษาเสื้อโปโลของเราเลย เพราะวิธีที่ผมได้กล่าวนั้นจะสามารถช่วยให้คุณดูแลได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน สามารถช่วยถนอมเสื้อโปโลของคุณได้ ไม่ทำให้เนื้อผ้าเป็นขุย และยืดอายุเนื้อผ้าได้นานมากขึ้นด้วยครับ วิธีที่บอกไปนั้นก็ไม่ใช่วิธีที่ยุ่งยากเลย สามารถทำตามได้ง่ายๆ ไม่เกินกำลังของคุณเลยครับ

หวังว่าเนื้อหาที่ผมได้เตรียมไว้นี้ จะสามารถช่วยให้คุณดูแลเสื้อโปโลของคุณได้น่ะคับ หากมีเรื่องไหนที่ยังสงสัยอยู่สามารถเข้ามาสอบถามได้เลยครับ เรายินดีให้คำปรึกษา


บทความที่น่าสนใจ
” รู้หรือไม่ เสื้อโปโลผู้ชายกับผู้หญิงมีความแตกต่างกัน ตรงส่วนไหนบ้างนั้น สามารถเข้ามาอ่านในบทความ ความแตกต่างของเสื้อโปโลผู้ชายกับผู้หญิง


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *